1.ไดโนเสาร์ของโนบิตะ
ในปี 1975 ฟูจิโกะ เอฟ. ฟูจิโอะ ได้วาด "โดราเอมอน ตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ"เป็นการ์ตูนเรื่องสั้นความยาว 25หน้าลงในนิตยสารโชเน็งซันเดย์ฉบับพิเศษและในภายหลังก็ได้ลงตีพิมพ์ในโดราเอมอนฉบับรวมเล่มของเทงโทมุชิคอมิกส์ ฉบับที่10 ด้วยซึ่ง ฟูจิโกะ เอฟ. ฟูจิโอะเขียนโดราเอมอนตอนนี้ขึ้นมาโดยได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่อง "Born Free" ที่เป็นผลงานการประพันธ์ของจอย อดัมสัน ต่อมาในเดือนตุลาคม ปี 1979 นิตยสารโคโรโคโรคอมิกก็ลงประกาศในเล่มว่า โดราเอมอนภาคนี้ จะได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยาว จากนั้นในเดือนธันวาคม ปีเดียวกัน ฟูจิโกะ เอฟ. ฟูจิโอะ ก็เขียนโดราเอมอนภาคนี้เป็นแบบเรื่องยาวลงในนิตยสารโคโรโคโรคอมิกรายเดือน โดยแบ่งเป็น 3 ตอนใหญ่ๆ ลงตีพิมพ์เดือนละตอนเป็นเวลา 3 เดือนด้วยกัน
"โดราเอมอน ตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ" ฉบับภาพยนตร์การ์ตูนที่สร้างโดยชินเอโดงะกับโชงะกุกัง ออกฉายในโรงภาพยนตร์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 15มีนาคม ปี 1980 ทำรายได้ไป 15.5 ร้อยล้านเยน หลังจากนั้นในปี1994 โดราเอมอนภาคนี้ก็ถูกนำไปดัดแปลงเป็นละครเพลง และได้ไปแสดงที่ประเทศฮ่องกงกับมาเลเซียด้วย ในปี 1983 "โดราเอมอน ตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ" แบบเรื่องยาวที่ได้รับการปรับปรุงเนื้อหาใหม่ก็ออกวางจำหน่ายในรูปแบบหนังสือการ์ตูนฉบับรวมเล่มของเทงโทมุชิคอมิกส์ในเครือสำนักพิมพ์โชงะกุกังและจากนั้นอีก 23 ปีให้หลัง "โดราเอมอน ตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ"
ก็ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูนเพื่อออกฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้ง
เรื่องย่อ : โนบิตะรู้สึกเจ็บใจที่ซึเนะโอะไม่ยอมให้ตนเองได้ดูฟอสซิลเล็บไดโนเสาร์แบบชัดๆ เลยเผลอหลุดปากประกาศต่อหน้าพวกซึเนะโอะว่า จะขุดฟอสซิลไดโนเสาร์มาให้ดูเป็นขวัญตา ทว่าเมื่อนำเรื่องนี้ไปบอกโดราเอมอน ก็กลับถูกโดราเอมอนต่อว่าเสียยกใหญ่ ดังนั้นโนบิตะจึงตั้งใจที่จะพึ่งพากำลังของตนเองด้วยการไปขุดหาฟอสซิลไดโนเสาร์ตามที่ต่างๆ และในระหว่างนั้นเขาก็ขุดพบหินประหลาดโดยเชื่อว่าเป็นไข่ของไดโนเสาร์ เมื่อนำกลับไปบ้านโดราเอมอนก็เอาผ้าคลุมกาลเวลาออกมาให้ใช้เพื่อย้อนเวลาให้สภาพของไข่ใบนั้นกลับคืนเหมือนในอดีตแล้วไข่ก็ฟักออกมาเป็นตัวไดโนเสาร์พันธุ์ฟุตาบะซึซึกิโนบิตะตั้งชื่อให้ไดโนเสาร์ตัวนั้นว่า "พีสุเกะ"
แม้จะได้ไดโนเสาร์ตัวจริงมาสมใจอยากแต่โนบิตะก็ยังไม่ยอมเอาพีสุเกะไปอวดพวกซึเนะโอะ เพราะอยากเลี้ยงให้ตัวโตมากๆเสียก่อน ทว่าเมื่อเลี้ยงไปเรื่อยๆพีสุเกะก็ตัวใหญ่มากขึ้นจนไม่สามารถเลี้ยงในบ้านได้อีกต่อไป โนบิตะจึงต้องพาพีสุเกะไปแอบซ่อนตัวอยู่ในสระน้ำของสวนสาธารณะแทนแต่ความลับไม่มีในโลก เมื่อเกิดข่าวลือว่ามีคนพบสัตว์ประหลาดในสระน้ำของสวนสาธารณะและจะมีการส่งนักประดาน้ำลงไปสำรวจในสระนั้น ทำให้โนบิตะกลุ้มใจอย่างหนักเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เรื่องของพีสุเกะถูกเปิดเผย ในขณะนั้นเองบุรุษชุดดำก็ได้ปรากฏตัวขึ้น เขาบอกกับโนบิตะว่าอยากจะขอซื้อตัวพีสุเกะแต่โนบิตะยืนกรานว่าไม่ยอมขาย เมื่อบุรุษชุดดำกลับไป โนบิตะจึงตัดสินใจที่จะเอาตัวพีสุเกะกลับไปไว้ที่โลกดึกดำบรรพ์ หลายวันต่อมา โนบิตะก็สุดจะอดกลั้นเนื่องจากไม่มีใครยอมเชื่อว่าโนบิตะเลี้ยงไดโนเสาร์ไว้จริงๆเขาเลยขอร้องให้โดราเอมอนเอาทีวีกาลเวลาออกมาให้พวกซึเนะโอะได้เห็นพีสุเกะที่อยู่ในโลกดึกดำบรรพ์ เมื่อได้ดูภาพจากทีวีก็พบว่าพีสุเกะไม่สามารถเข้ากับไดโนเสาร์ตัวอื่นได้ทำให้โดราเอมอนรู้ว่าพวกตนได้พาพีสุเกะไปส่งในแถบอเมริกาเหนือซึ่งที่นั่นไม่ใช่ถิ่นกำเนิดของไดโนเสาร์พันธุ์ฟุตาบะซึซึกิอย่างพีสุเกะ เมื่อได้ยินดังนั้นโนบิตะจึงรีบขอให้โดราเอมอนนั่งไทม์แมชชีนไปพาตัวพีสุเกะกลับมาทันทีส่วนชิซุกะ ไจแอนท์ และซึเนะโอะก็ได้ขอตามไปด้วย ส่งผลให้จำนวนบรรทุกเกินอัตราแถมระหว่างทางยังถูกบุรุษชุดดำตามมายิงปืนใส่อีก 1ทีทำให้ไทม์แมชชีนพังเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมให้ใช้การเหมือนเดิมได้ ด้วยเหตุนี้พวกโนบิตะจึงต้องออกเดินทางผจญภัยในโลกดึกดำบรรพ์ต่อสู้กับเหล่าวายร้ายบุรษชุดดำซึ่งเป็นนักล่าไดโนเสาร์ที่จ้องจะจับพีสุเกะไปเป็นสัตว์เลี้ยงของอัครมหาเศรษฐีในโลกอนาคตและพยายามหาทางกลับไปประเทศญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันให้ได้
สิ่งที่ทำให้น่าจดจำ : โลกที่เต็มไปด้วยไดโนเสาร์สิ่งเหล่านี้คือความใฝ่ฝันของเด็ก ๆ แทบทุกคนไม่ว่าจะเป็นการเจอะเจอ ไทแรนโนซอรัส ด้วยตาตัวเอง เด็กๆทุกคนจึงมักจินตนาการใฝ่ฝันว่าบนโลกนี้ยังมีไดโนเสาร์อยู่ และเหนือสิ่งอื่นใด นี่คือ การผจญภัยของโดราเอมอนตอนแรกเริ่ม
"โดราเอมอน ตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ" ฉบับภาพยนตร์การ์ตูนที่สร้างโดยชินเอโดงะกับโชงะกุกัง ออกฉายในโรงภาพยนตร์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 15มีนาคม ปี 1980 ทำรายได้ไป 15.5 ร้อยล้านเยน หลังจากนั้นในปี1994 โดราเอมอนภาคนี้ก็ถูกนำไปดัดแปลงเป็นละครเพลง และได้ไปแสดงที่ประเทศฮ่องกงกับมาเลเซียด้วย ในปี 1983 "โดราเอมอน ตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ" แบบเรื่องยาวที่ได้รับการปรับปรุงเนื้อหาใหม่ก็ออกวางจำหน่ายในรูปแบบหนังสือการ์ตูนฉบับรวมเล่มของเทงโทมุชิคอมิกส์ในเครือสำนักพิมพ์โชงะกุกังและจากนั้นอีก 23 ปีให้หลัง "โดราเอมอน ตอน ไดโนเสาร์ของโนบิตะ"
ก็ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูนเพื่อออกฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้ง
เรื่องย่อ : โนบิตะรู้สึกเจ็บใจที่ซึเนะโอะไม่ยอมให้ตนเองได้ดูฟอสซิลเล็บไดโนเสาร์แบบชัดๆ เลยเผลอหลุดปากประกาศต่อหน้าพวกซึเนะโอะว่า จะขุดฟอสซิลไดโนเสาร์มาให้ดูเป็นขวัญตา ทว่าเมื่อนำเรื่องนี้ไปบอกโดราเอมอน ก็กลับถูกโดราเอมอนต่อว่าเสียยกใหญ่ ดังนั้นโนบิตะจึงตั้งใจที่จะพึ่งพากำลังของตนเองด้วยการไปขุดหาฟอสซิลไดโนเสาร์ตามที่ต่างๆ และในระหว่างนั้นเขาก็ขุดพบหินประหลาดโดยเชื่อว่าเป็นไข่ของไดโนเสาร์ เมื่อนำกลับไปบ้านโดราเอมอนก็เอาผ้าคลุมกาลเวลาออกมาให้ใช้เพื่อย้อนเวลาให้สภาพของไข่ใบนั้นกลับคืนเหมือนในอดีตแล้วไข่ก็ฟักออกมาเป็นตัวไดโนเสาร์พันธุ์ฟุตาบะซึซึกิโนบิตะตั้งชื่อให้ไดโนเสาร์ตัวนั้นว่า "พีสุเกะ"
แม้จะได้ไดโนเสาร์ตัวจริงมาสมใจอยากแต่โนบิตะก็ยังไม่ยอมเอาพีสุเกะไปอวดพวกซึเนะโอะ เพราะอยากเลี้ยงให้ตัวโตมากๆเสียก่อน ทว่าเมื่อเลี้ยงไปเรื่อยๆพีสุเกะก็ตัวใหญ่มากขึ้นจนไม่สามารถเลี้ยงในบ้านได้อีกต่อไป โนบิตะจึงต้องพาพีสุเกะไปแอบซ่อนตัวอยู่ในสระน้ำของสวนสาธารณะแทนแต่ความลับไม่มีในโลก เมื่อเกิดข่าวลือว่ามีคนพบสัตว์ประหลาดในสระน้ำของสวนสาธารณะและจะมีการส่งนักประดาน้ำลงไปสำรวจในสระนั้น ทำให้โนบิตะกลุ้มใจอย่างหนักเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เรื่องของพีสุเกะถูกเปิดเผย ในขณะนั้นเองบุรุษชุดดำก็ได้ปรากฏตัวขึ้น เขาบอกกับโนบิตะว่าอยากจะขอซื้อตัวพีสุเกะแต่โนบิตะยืนกรานว่าไม่ยอมขาย เมื่อบุรุษชุดดำกลับไป โนบิตะจึงตัดสินใจที่จะเอาตัวพีสุเกะกลับไปไว้ที่โลกดึกดำบรรพ์ หลายวันต่อมา โนบิตะก็สุดจะอดกลั้นเนื่องจากไม่มีใครยอมเชื่อว่าโนบิตะเลี้ยงไดโนเสาร์ไว้จริงๆเขาเลยขอร้องให้โดราเอมอนเอาทีวีกาลเวลาออกมาให้พวกซึเนะโอะได้เห็นพีสุเกะที่อยู่ในโลกดึกดำบรรพ์ เมื่อได้ดูภาพจากทีวีก็พบว่าพีสุเกะไม่สามารถเข้ากับไดโนเสาร์ตัวอื่นได้ทำให้โดราเอมอนรู้ว่าพวกตนได้พาพีสุเกะไปส่งในแถบอเมริกาเหนือซึ่งที่นั่นไม่ใช่ถิ่นกำเนิดของไดโนเสาร์พันธุ์ฟุตาบะซึซึกิอย่างพีสุเกะ เมื่อได้ยินดังนั้นโนบิตะจึงรีบขอให้โดราเอมอนนั่งไทม์แมชชีนไปพาตัวพีสุเกะกลับมาทันทีส่วนชิซุกะ ไจแอนท์ และซึเนะโอะก็ได้ขอตามไปด้วย ส่งผลให้จำนวนบรรทุกเกินอัตราแถมระหว่างทางยังถูกบุรุษชุดดำตามมายิงปืนใส่อีก 1ทีทำให้ไทม์แมชชีนพังเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซมให้ใช้การเหมือนเดิมได้ ด้วยเหตุนี้พวกโนบิตะจึงต้องออกเดินทางผจญภัยในโลกดึกดำบรรพ์ต่อสู้กับเหล่าวายร้ายบุรษชุดดำซึ่งเป็นนักล่าไดโนเสาร์ที่จ้องจะจับพีสุเกะไปเป็นสัตว์เลี้ยงของอัครมหาเศรษฐีในโลกอนาคตและพยายามหาทางกลับไปประเทศญี่ปุ่นในยุคปัจจุบันให้ได้
สิ่งที่ทำให้น่าจดจำ : โลกที่เต็มไปด้วยไดโนเสาร์สิ่งเหล่านี้คือความใฝ่ฝันของเด็ก ๆ แทบทุกคนไม่ว่าจะเป็นการเจอะเจอ ไทแรนโนซอรัส ด้วยตาตัวเอง เด็กๆทุกคนจึงมักจินตนาการใฝ่ฝันว่าบนโลกนี้ยังมีไดโนเสาร์อยู่ และเหนือสิ่งอื่นใด นี่คือ การผจญภัยของโดราเอมอนตอนแรกเริ่ม